เส้นทางชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กิเลนผยอง ได้ เอสซีจี หนุน5ปีทุ่ม600ล.ทวงบัลลังก์แชมป์


เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จับมือสปอนเซอร์รายใหม่ เอสซีจี ร่วมทุนสนับสนุนทีม 5 ปี ทุ่มเงินหนุนทีม 600 ล้านบาท และเข้าถือหุ้นของในสโมสร 3 พร้อมเปลี่ยนชื่อทีมเป็น เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ส่วนสนามก็เปลี่ยนเป็น สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ด้วย ทุกฝ่ายพร้อมใจประกาศล่าถ้วยแชมป์ปีนี้อย่างเต็มตัว พร้อมเปลี่ยนชื่อทีมเป็น
ความเคลื่อนไหวของทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยในวันนี้ (16 ก.พ.) ได้ทำการลงนามเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับ เอสซีจี ณ โรงแรมสวิสโซเทล นายเลิศปาค์ก โดยมี นายปราโมทย์ เตชะวุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี, นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ รวมไปถึง นายระวิ โหลทอง ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และ นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานสโมสร พร้อมด้วยบรรดานักเตะและทีมงานของ "กิเลนยอง" ตบเท้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
การรวมมือกันในครั้งนี้ เอสซีจี จะผนึกกำลังกับ เมืองทองฯ โดยร่วมถือหุ้น 30% พร้อมกับเป็น Title Sponsor 5 ปี และทุ่มงบทำทีมอีก 600 ล้านบาท อีกทั้งยังได้สิทธิ์ใช้ชื่อทีมเป็น เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทั้งยังเป็นสปอนเซอร์คาดหน้าอกเสื้อแข่ง และเปลี่ยนชื่อสนามเหย้าเป็น เอสซีจี สเตเดี้ยม และมุ่งไปที่การพํมนาวงการฟุตบอลไทยสู่ภูมิภาคเอเชียและระดับโลก พร้อมตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกกลับมาสู่ทีม และเป้าหมายระยะยาวคือการผงาดสู่สโมสรชั้นนำของเอเชีย
นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ซีเมนต์ ได้เปิดเผยว่า "เรามีวิสัยทัศน์ว่าในปี พ.ศ.2558 บริษัทต้องการขยายแบรนด์ เป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำในย่านอาเซียน ดังนั้นการเข้ามาสนับสนุนสโมสรเมืองทองฯ ถือเป็นการนำแบรนด์เอสซีจี ให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ตามแนวทางสปอร์ต มาร์เก็ตติง และเหตุผลที่เราเลือก เมืองทองฯ เพราะเป็นทีมที่มีศักยภาพสูงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของโค้ช ผู้เล่น การบริหารจัดการ สนามฟุตบอล ฐานกองเชียร์ที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงมีระบบอะคาเดมี่ที่ดี อีกทั้งนยังมีพันธมิตรทั้งในเอเชียและยุโรป"
"การเข้ามาครั้งนี้เราหวังช่วยหนุนให้ เมืองทองฯ ยกระดับเป็นทีมระดับสากลมากขึ้น ซึ่งสโมสรก็สามารถช่วยเผยแพร่ให้แบรนด์เอสซีจี แพร่หลายทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นด้วย ส่วนเรื่องที่จะนำทีมเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ตนไม่สามารถตอบเรื่องนี้ได้ เนื่องจากเราเองถือหุ้นเพียงแค่ 30% ทุกอย่างคงต้องขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้นใหญ่ของ เมืองทองฯ"
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธาน "เมืองทอง" กล่าวเช่นกันว่า "การเข้ามาร่วมทุนของ เอสซีจี ถือเป็นปรากฎการณ์ในด้านการบริหารทีมฟุตบอล เราขอขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจและเห็นคุณค่าของสโมสร ส่วนเป้าหมายในปีนี้ของ เมืองทองฯ คือลุ้นแชมป์ทุกรายการที่เข้าร่วม นอกจากนั้นเรายังมีเป้าหมายยกระดับตัวเองให้เป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชียภายในระยะเวลา 5 ปี สำหรับในส่วนของการเสริมทัพจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ ก่อนตลาดปิดช่วงกลางเดือนมีนาคม เรายังเล็งแข้งต่างชาติไว้ 2 ตำแหน่ง รวมทั้งนักเตะไทย"
ขณะที่ "บิ๊กเป้"รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสรได้ทิ้งท้ายว่า "เรื่องการหาตัวกุนซือใหญคนใหม่ ตอนนี้ที่อยู่ในข่ายพิจารณา เราตัดเหลือแค่ 2 รายเท่านั้น แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากโค้ชมีสัญญากับต้นสังกัดเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ล้วนมีฝีมือและมีความรู้เรื่องฟุตบอลเอเชียเป็นอย่างดีแน่นอน เรื่องนี้ตนรับปรักันว่าภายใน 3-5 วันนี้เราก็น่าจะได้ข้อสรุปกัน พร้อมกันนี้ในส่วนของนักเตะเรายังต้องการแข้งต่างชาติระดับบิ๊กเนมอีก 2 ราย ส่วนนักเตะไทยเราจะยังไม่หยุดช็อปจนกวาตลาดซื้อขายนักเตะในรอบนี้จะปิดตัวลง"
ส่วน "เจ้าโก้"ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์ตัวกลั่นของทีมได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "นี่เป็นนิมิตรหมายที่ดีของสโมสร เพราะด้วยเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวนั้นน่าจะนำมาพัฒนาสโมสรได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวแม้จะรู้สึกกดดันกับการลงเล่นในฤดูกาลนี้ แต่ขอสัญญาว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าฤดูกาล 2012 จะเป็นปีที่ดีของ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ด้วย"
แหล่งข่าว  http://www.thaileagueonline.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น